การบรีดกระต่ายข้ามสายพันธุ์ (ในมุมมองของBreeder)
เหตุผลหลักๆของการผสมข้ามสายพันธุ์ที่บรีดเดอร์ทั่วไปใช้มีเพียงสองเหตุผลด้านล่างนี้ คือ
1. การผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่
วิธีการนี้ก็เข้าใจได้อย่างง่ายดายตามหัวข้อ เพื่อต้องการสร้างสายพันธุ์ใหม่
ตัวอย่างเช่น
- Holland Lop เกิดจากากรผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Netherland Dwarf, French Lop และ English Lop
- Jersey Wooly เกิดจากากรผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Netherland Dwarf กับ French Angora
ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูง่าย แต่เชื่อเถอะว่าการสร้างพันธุ์ใหม่ๆนั้น ต้องการทั้งความรู้ด้านพันธุกรรม ความพยายาม เวลา และต้นทุนมหาศาล ผมเชื่อว่าควรเป็นเรื่องของผู้เชียวชาญเท่านั้น และทุกวันนี้เราก็มีกระต่ายหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายรูปร่างหน้าตา ให้เลือกเลี้ยงกันเพียงพอแล้ว
2. การผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่หายาก
นี่เป็นเหตุผลที่เรามักจะไม่เห็นการผสมข้ามสายพันธุ์ของกระต่ายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากๆ อย่างเช่น ฮอลแลนด์ ลอป เพราะสมมุติว่าคุณต้องการพัฒนากระต่ายฮอลแลนด์ ลอป ของคุณให้ตรงตามมาตราฐานมากขึ้น คุณก็แค่ไปหากระต่ายฮอลแลนด์ ลอป จากบรีดเดอร์คนอื่นที่คุณคิดว่าสวย และสามารถนำมาพัฒนากระต่ายของคุณได้ แต่สิ่งนี้จะเป็นไปได้ยากถ้าเป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่หายาก สายพันธุ์ที่คุณไม่สามารถหากระต่ายพันธุ์เดียวกันมาพัฒนาได้ บรีดเดอร์ของกระต่ายสายพันธุ์หายากเหล่านี้จึงมักจะใช้สายพันธุ์อื่นที่มีส่วนที่ต้องการมาใช้แทน
1. การผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่
วิธีการนี้ก็เข้าใจได้อย่างง่ายดายตามหัวข้อ เพื่อต้องการสร้างสายพันธุ์ใหม่
ตัวอย่างเช่น
- Holland Lop เกิดจากากรผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Netherland Dwarf, French Lop และ English Lop
- Jersey Wooly เกิดจากากรผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Netherland Dwarf กับ French Angora
ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูง่าย แต่เชื่อเถอะว่าการสร้างพันธุ์ใหม่ๆนั้น ต้องการทั้งความรู้ด้านพันธุกรรม ความพยายาม เวลา และต้นทุนมหาศาล ผมเชื่อว่าควรเป็นเรื่องของผู้เชียวชาญเท่านั้น และทุกวันนี้เราก็มีกระต่ายหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายรูปร่างหน้าตา ให้เลือกเลี้ยงกันเพียงพอแล้ว
2. การผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่หายาก
นี่เป็นเหตุผลที่เรามักจะไม่เห็นการผสมข้ามสายพันธุ์ของกระต่ายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากๆ อย่างเช่น ฮอลแลนด์ ลอป เพราะสมมุติว่าคุณต้องการพัฒนากระต่ายฮอลแลนด์ ลอป ของคุณให้ตรงตามมาตราฐานมากขึ้น คุณก็แค่ไปหากระต่ายฮอลแลนด์ ลอป จากบรีดเดอร์คนอื่นที่คุณคิดว่าสวย และสามารถนำมาพัฒนากระต่ายของคุณได้ แต่สิ่งนี้จะเป็นไปได้ยากถ้าเป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่หายาก สายพันธุ์ที่คุณไม่สามารถหากระต่ายพันธุ์เดียวกันมาพัฒนาได้ บรีดเดอร์ของกระต่ายสายพันธุ์หายากเหล่านี้จึงมักจะใช้สายพันธุ์อื่นที่มีส่วนที่ต้องการมาใช้แทน
ปัญหาสำคัญของการผสมข้ามสายพันธุ์
การผสมข้ามสายพันธุ์เป็นสิ่งที่ต้องระวังในหลายๆด้าน การผสมข้ามสายพันธุ์จะทำให้ลูกที่เกิดมาแต่ละตัว มีความแตกต่างกันอย่างมาก และความแตกต่างเหล่านี้ก็คือความไม่ได้มาตรฐานทางสายพันธุ์ อย่างถ้าเราพูดถึงกฎในการแนะนำพันธุ์ใหม่ๆของสมาคม ARBA นั้น บรีดเดอร์ที่จะแนะนำพันธุ์ใหม่ต่อคณะกรรมการต้องแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวา ความเป็นมาตราฐานได้อย่างน้อย สามชั่วรุ่น ( 3 Generations)
ปัญหาของการผสมข้ามสายพันธุ์ที่แท้จริงก็คือ คุณอาจจะกำลังนำข้อด้อยหรือโรคทางพันธุกรรมของกระต่ายทั้งสองสายพันธุ์มารวมกัน ถึงแม้ว่ากระต่ายรุ่นแรกที่คุณบรีดได้อาจจะดูแข็งแรง แต่กระต่ายเหล่านั้นอาจจะกำลังซ่อนยีนส์ที่อ่อนแออ ของทั้งสองสายพันธุ์ที่คุณผสมเข้าด้วยกันก็เป็นได้ และการทำแบบนี้จึงไม่เป็นผลดีต่อกระต่ายทั้งสองสายพันธุ์ที่คุณนำมาผสมกัน เพราะอาจจะมีการนำกระต่ายเหล่านี้กลับไปผสมกับสายพันธุ์ดังเดิม และนั่นหมายความว่าคุณกำลังนำข้อด้อยที่ไม่มีอยู่ในสายพันธุ์นั้นๆ ใส่เพิ่มเข้าไปนั่นเอง จะเห็นได้ว่าการผสมกระต่ายข้ามสายพันธุ์เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญและอันตราย และไม่เหมาะกับคนทั่วไปที่จะทำ ในมุมมองของบรีดเดอร์ที่ดี คือเราต้องพยายามพัฒนากระต่ายสายพันธุ์ที่เราบรีดให้ได้มาตราฐานมากที่สุด และปราศจากโรคและความอ่อนแอทางพันธุกรรมให้ได้มากที่สุด
จริงๆผมอยากให้มองว่าการผสมกระต่ายนั้นใช้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ เงินทุน และเวลาที่มากมาย จึงไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไปในทุกกรณี เพราะกระต่ายทุกตัวที่เกิดมา นั่นหมายถึงความรับผิดชอบของบรีดเดอร์ผู้นั้น นี่ยังไม่นับรวมถึงบรรดาลูก หลาน ที่จะตามมาอีกด้วย สุดท้ายนี้ก่อนที่คุณจะผสมกระต่ายสักคู่ ขอให้คิดให้ดีๆ คิดให้มากๆ ว่าคุณกำลังจะทำอะไร ต้องการอะไร และสิ่งที่คุณทำนั้นส่งผลดีต่อกระต่ายสายพันธุ์นั้นแล้วจริงๆใช่ไหม
การผสมข้ามสายพันธุ์เป็นสิ่งที่ต้องระวังในหลายๆด้าน การผสมข้ามสายพันธุ์จะทำให้ลูกที่เกิดมาแต่ละตัว มีความแตกต่างกันอย่างมาก และความแตกต่างเหล่านี้ก็คือความไม่ได้มาตรฐานทางสายพันธุ์ อย่างถ้าเราพูดถึงกฎในการแนะนำพันธุ์ใหม่ๆของสมาคม ARBA นั้น บรีดเดอร์ที่จะแนะนำพันธุ์ใหม่ต่อคณะกรรมการต้องแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวา ความเป็นมาตราฐานได้อย่างน้อย สามชั่วรุ่น ( 3 Generations)
ปัญหาของการผสมข้ามสายพันธุ์ที่แท้จริงก็คือ คุณอาจจะกำลังนำข้อด้อยหรือโรคทางพันธุกรรมของกระต่ายทั้งสองสายพันธุ์มารวมกัน ถึงแม้ว่ากระต่ายรุ่นแรกที่คุณบรีดได้อาจจะดูแข็งแรง แต่กระต่ายเหล่านั้นอาจจะกำลังซ่อนยีนส์ที่อ่อนแออ ของทั้งสองสายพันธุ์ที่คุณผสมเข้าด้วยกันก็เป็นได้ และการทำแบบนี้จึงไม่เป็นผลดีต่อกระต่ายทั้งสองสายพันธุ์ที่คุณนำมาผสมกัน เพราะอาจจะมีการนำกระต่ายเหล่านี้กลับไปผสมกับสายพันธุ์ดังเดิม และนั่นหมายความว่าคุณกำลังนำข้อด้อยที่ไม่มีอยู่ในสายพันธุ์นั้นๆ ใส่เพิ่มเข้าไปนั่นเอง จะเห็นได้ว่าการผสมกระต่ายข้ามสายพันธุ์เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญและอันตราย และไม่เหมาะกับคนทั่วไปที่จะทำ ในมุมมองของบรีดเดอร์ที่ดี คือเราต้องพยายามพัฒนากระต่ายสายพันธุ์ที่เราบรีดให้ได้มาตราฐานมากที่สุด และปราศจากโรคและความอ่อนแอทางพันธุกรรมให้ได้มากที่สุด
จริงๆผมอยากให้มองว่าการผสมกระต่ายนั้นใช้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ เงินทุน และเวลาที่มากมาย จึงไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไปในทุกกรณี เพราะกระต่ายทุกตัวที่เกิดมา นั่นหมายถึงความรับผิดชอบของบรีดเดอร์ผู้นั้น นี่ยังไม่นับรวมถึงบรรดาลูก หลาน ที่จะตามมาอีกด้วย สุดท้ายนี้ก่อนที่คุณจะผสมกระต่ายสักคู่ ขอให้คิดให้ดีๆ คิดให้มากๆ ว่าคุณกำลังจะทำอะไร ต้องการอะไร และสิ่งที่คุณทำนั้นส่งผลดีต่อกระต่ายสายพันธุ์นั้นแล้วจริงๆใช่ไหม